ข่าวกีฬาฟุตบอล แข้งจอมโหดพันธ์ดุ รอย คีน สุดยอดตำนานกัปตันทีมแห่งสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ข่าวกีฬาฟุตบอล บทความกีฬาที่น่าสนใจ รอย คีน (Roy Keane) หากกล่าวถึงการเล่นฟุตบอลสไตล์อังกฤษในยุค 90 คงไม่มีนักเตะคนไหน เล่นบอลด้วยความอย่าง โหดเหี้ยม ดุดัน เดือดดาล เท่ากับตำนานกับตันทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างรอยคีนอีกแล้ว
มึงกับกูเจอกันในสนาม วาทะกรรมอันเรื่องลือในการเจอกับคู่แข่งที่เป็นที่เล่าขานต่อ ๆ กันมาจนถึงปัจจุบัน ถึงความดุร้าย ป่าเถื่อนเปรียบเสมือนสัตว์ป่าอันบ้าคลั่ง ของยอดกับตันที่ทุกทีมบนโลกอยากมี
ชายผู้ที่ในเวลานั้นสวมปลอกแขนกัปตันทีม ในช่วงที่ แมนยู ฯ ครองบัลลังก์แชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ชายผู้ที่ไม่ได้มีทักษะเทคนิคทางฟุตบอลดีเลิศ เหมือนอย่างสุดยอดแข้งเวทมนต์มหัศจรรย์ในตำนานทีมชาติ ฝรั่งเศส ซีเนดีน ซีดาน
ชายผู้ไม่ได้มีคลาสทักษะยิงไกลดีเหมือนอย่างตำนานศิลปินลูกหนังทีมชาติ อิตาลี อันเดรอา ปีร์โล มีแต่ความบ้าระห่ำ จุดเดือดต่ำ ที่พร้อมยอมตายดีกว่ายอมแพ้ และที่แมนยู ฯ ก็ไม่มีนักเตะคนไหนคู่ควรที่จะสวมปลอกแขนกับตันทีมอย่างรอยคีนอีกแล้ว
ข่าวกีฬาฟุตบอล รอย คีน กัปตันทีมผู้ทรงอิทธิพลในสนาม และผู้ที่ได้รับการยกย่องจากตำนานนักเตะ
รอยคีนคือคนที่ชี้หน้าด่า ปาทรึ วิเอร่า ตำนานกัปตันทีมปืนใหญ่ อาร์เซน่อล เพื่อปกป้องลูกทีมของเขาในอุโมงค์สนาม ไฮบิวรี่ ซึ่งวิเอร่าได้กล่าวถึงรอยคีนว่า เมื่อรอยคีนโดนไล่เตะ เขาจะไม่พูดอะไรทั้งนั้น แต่เขาจะหวดกลับในทันที และนี่เป็นสิ่งวิเอร่าชื่นชอบที่สุด
ตำนานกับตันทีมลิเวอร์พูลอย่าง สตีเวน เจอร์ราร์ด ได้กล่าวถึงรอยคีนว่า เป็นนักฟุตบอลที่แตกต่างกว่าใคร ๆ และอยากลงเล่นในทีมเดียวกันด้วยสักครั้งในชีวิต
เธียรี่ อองรี ตำนานกองหน้าของอาร์เซน่อล บอกว่า เขานั้นเป็นแฟนพันธ์แท้ของรอยคีน เดรอสซี่ กองกลางจอมเก๋าแห่งทัพหมาป่ากรุงโรม บอกว่า รอยคีนคือนักเตะคนเดียวในโลกที่เขาขอถ่ายรูปคู่ด้วย
เอริค คันโตน่า ตำนานศูนย์หน้าทีมปีศาจแดง บอกว่า ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เล่นฟุตบอลร่วมกับรอยคีน อลัน เชียเรอร์ สุดยอดกองหน้าทีมชาติ อังกฤษ บอกว่า รอยคีนคือนักรบผู้ยิ่งใหญ่บนผืนหญ้า
ผู้ตัดสินในตำนานอย่าง มาร์ค แคลทเทนเบิร์ก ยอมรับว่าตัวเขานั้นปอดแหกไปในทันที เมื่อต้องเจอกับรอยคีน ครั้งหนึ่งในเกมส์การตัดสิน เป็นลูกเซ็ทพีชตั้งเตะจากประตู แต่รอยคีนได้ตะโกนว่าเป็นลูกเตะมุม เขานั้นถึงกับต้องเปลี่ยนการตัดสินให้เป็นลูกเตะมุมในทันที
รอยคีน สโมสรสำคัญกว่าตัวผม
รอยคีน ชายผู้เปรียบเสมือนจิตวิญญาณของแมนยู ฯ ชายผู้เป็นตัวแทนแห่งความเป็นผู้นำ ชายผู้ที่เล่นฟุตบอลอย่างถวายหัวอย่างสุดชีวิต เพื่อตราสโมสรที่อยู่บนหน้าอก
ในเกมส์การแข่งขันรอบรองชนะเลิศ ศึกยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก ปี 1999 ที่แมนยู ฯ ต้องมาเจอกับยอดทีมจากอิตาลีอย่าง ยูเวนตุส และรอยคีนต้องตามประกบนักเตะอันดับหนึ่งของโลกในเวลานั้นอย่าง ซีดาน
ยูเวนตุสเป็นฝ่ายทำประตูขึ้นนำ 2 – 0 เพียงเวลา 11 นาทีเท่านั้น จนกระทั่งนาทีที่ 24 รอยคีนทำประตูตีตื้นขึ้นมาเป็น 2 – 1 จากลูกโหม่ง เจ้าตัวได้ตะโกนแหกปากกระตุ้นเพื่อนร่วมทีม เพื่อให้ทีมกลับมาสู้เพื่อชัยชนะ
รอยคีนตัดสินใจเสียบสกัดจากทางด้านหลังของซีดาน ทั้งที่รู้ว่าตัวเองมีใบเหลืองติดตัว และจะไม่สามารถลงแข่งขันในนัดชิงชนะเลิศได้ แต่รอยคีนก็ยอมแลกเพื่อที่จะส่งทีมเข้าไปแข่งในรอบชิง
ซึ่งแมนยู ฯ สามารถเอาชนะยูเว่ ฯ ไปด้วยสกอร์ 3 – 2 จากการเหลือผู้เล่นในสนามเพียง 10 คนเท่านั้น โดยรอยคีนได้กล่าวเอาไว้แบบนี้ว่า จะให้ผมยอมแพ้นะเหรอ ไม่มีวันหรอกนะ ผมสู้เพื่อสโมสรแห่งนี้ มันเป็นสิ่งที่ผมต้องทำ มันคือหน้าที่ของผม สโมสรแห่งนี้คู่ควรกับการเข้าไปเล่นในนัดชิงชนะเลิศ
ในนัดชิงชนะเลิศปีศาจแดงสามารถคว้าถ้วยแชมป์มาครองได้สำเร็จ โดยไม่มียอดกับตันทีมอย่างรอยคีน และเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้กล่าวยกย่องนักเตะคนนี้ว่า
รอยคีนคือนักเตะที่ยอมวิ่งจนตายดีกว่ายอมแพ้ เป็นการเล่นที่ยิ่งใหญ่และไม่มีความเห็นแก่ตัวในการเล่นฟุตบอล ตั้งแต่เขาเคยเห็นมา และเป็นเกียรติอย่างมาก ที่ได้ร่วมงานกับนักฟุตบอลคนนี้
ประวัติรอยคีน
ชื่อเต็ม รอย มอรีช คีน (ROY Maurice Keane) เกิดวันที่ 10 สิงหาคม 1971 ประเทศ ไอร์แลนด์ ครอบครัวของรอยคีนเป็นแฟนพันธ์แท้ของทีมฟุตบอลสโมสรจากอังกฤษ สเปอร์ส และทีมจากสกอตแลนด์ เซลติก อีกทั้งรอยคีนยังชื่นชอบกีฬาชกมวยเป็นพิเศษอีกด้วย
เมื่ออายุ 9 รอยคีนกำลังพัฒนาเป็นนักฟุตบอลโดยฝึกซ้อมกับทีมเยาวชนของร็อคเมาท์ ซึ่งรอยคีนโชว์ศักยภาพของเจ้าตัวออกมาตั้งแต่เด็ก ด้วยการได้รับโหวตให้เป็น ผู้เล่นแห่งปี ในการแข่งขันฤดูกาลแรก
ในปี 1989 รอยคีนวัย 18 ปี ได้เซ็นสัญญาอาชีพกับสโมสร โคบห์แรมเบลอร์ส เอฟซี ต่อมาในศึกการแข่งขัน รายการ เอฟเอไอ ยูทคัพ ที่ต้องเจอกับทีม เบลวาเดียร์ รอยคีนโชว์ฟอร์มได้เป็นอย่างดี จนเข้าตาแมวมองของทีมสโมสร น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
จากนั้นรอยคีนได้ถูกเชิญเข้าไปทดสอบฝีเท้า และทำให้เจ้าตัวได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมทีมด้วยค่าตัว 47,000 ปอนด์ ในปี 1990 ถือเป็นการค้าแข้งในลีกต่างประเทศครั้งแรกในชีวิต
รอยคีนพบว่าการใช้ชีวิตในต่างแดนกับทีมน็อตติ้งแฮมเป็นเรื่องที่ยาก เพราะต้องอยู่ห่างจากครอบครัวเป็นเวลานาน และรอยคีนมักจะขอสโมสรกลับไปหาครอบครัวที่ไอร์แลนด์อยู่เป็นประจำ
ในช่วงปีแรกรอยคีนลงเล่นให้กับทีมสำรอง U21 ต่อมาในปี 1991 โค้ชได้ดึงตัวขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ และต้องแข่งขันกับทีมแมนยู ฯ ในนัดชองชนะเลิศ ลีกคัพ ซึ่งในนัดนี้น็อตติ้งแฮมพ่ายแพ้ไป 0 – 1 และจบฤดูกาลด้วยการตกชั้น
ซึ่งรอยคีนทำผลงานด้วยการลงสนามไปทั้งหมด 49 นัด ยิงประตูได้ 11 ประตู รวมทุกรายการ ฝีเท้าของรอยคีนพัฒนาขึ้นมาก ทำให้ยอดบรมกุนซืออย่างเฟอร์กูสัน ฉวยโอกาสคว้าตัวรอยคีนมาร่วมทัพปีศาจแดง
ซึ่งรอยคีนชื่นชอบผู้เล่นอย่าง ไบรอัน ร็อบสัน กับตันทีมแมนยู ฯ ตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก และตอบรับย้ายร่วมทีมด้วยค่าตัว 3.75 ล้านปอนด์
ร็อบสันเข้าสู่ช่วงท้ายของอาชีพนักฟุตบอล เจ้าตัวได้รับบาดเจ็บทำให้ไม่สามารถลงแข่งขันได้ในฤดูกาล 1992 – 1993 หลังจากจบการแข่งขันของฤดูกาล ร็อบสันได้ประกาศอำลาอาชีนักฟุตบอล ด้วยอายุ 36 ปี ทำให้ปลอกแขนกัปตันทีมตกมาอยู่ในมือของศูนย์หน้าจอมถล่มประตูอย่าง เอริก ก็องโตนา
ในฤดูกาล 1993 – 1994 รอยคีนลงแข่งขันเกมส์แรกในสีเสื้อปีศาจแดง ซึ่งต้องเจอกับทีมเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในนัดนี้รอยคีนโชว์ฟอร์มในนัดเปิดตัวได้อย่างร้อนแรง ด้วยการยิงประตู 2 ลูก ทำให้แมนยู ฯ เอาชนะไปด้วยสกอร์ 3 – 0
หลังจากจบฤดูกาล 1997 – 1998 ก็องโตนาประกาศแขวนสตั๊ด ทำเอาแฟนผีช็อคไปทั้งโลก ทำให้ป๋าเฟอร์กี้จำเป็นต้องหากัปตันทีมคนใหม่ และคนที่เหมาะสมที่สุดก็คือรอยคีน แต่เจ้าตัวก็ต้องพบกับความโชคร้าย เพราะได้รับบาดเจ็บในเกมส์แข่งขันกับทีมลีดส์ยูไนเต็ด
ทำให้รอยคีนลงสนามไปเพียงแค่ 9 นัดเท่านั้น และต้องพักรักษาตัวไปตลอดทั้งฤดูกาล และหลังจากที่หายจากอาการบาดเจ็บกลับมาด้วยสภาพร่างกายที่ฟิตสมบูรณ์
รอยคีนกลับมาโชวฟอร์มบนผืนหญ้าอีกครั้งในฤดูกาล 1998 – 1999 เป็นกำลังหลักตัดสินแดนกลางช่วยพาทัพปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผงาดคว้าทริปเปิลแชมป์ ด้วยการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลัก แชมป์ เอฟเอคัพ และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก