ข่าวกีฬา อังกฤษ พิชิตคู่แค้นสำคัญอย่าง เยอรมัน
ลงได้สำเร็จอย่างสะใจดีนักแล และต่อไปคือเหตุผลที่บอกว่าทำไม ???
1. สุดยอดเกมรับ
แกเร็ธ เซาธ์เกต ปรับระบบเป็น ‘หลังสาม’ ในสูตร 3-4-3 เพื่อรับมือกับ ‘อินทรเหล็ก’ โดยเฉพาะ ด้วยการขยับเอา ไคล์ วอล์คเกอร์ เข้ามาเป็นเซ็นเตอร์ฯ อีก 1 คน
นอกจากนี้ยังใส่มิดฟิลด์ตัวรับ 2 คน เพื่อทำลายจังหวะคู่แข่งในแดนกลาง
ส่วน ‘วิง-แบ็ค’ 2 ข้างก็ใช้ผู้เล่นประเภท ‘ฟูลแบ็ค’ จริงๆ ไม่ได้เอา ‘ปีก’ มารับตำแหน่งนี้ หมายความว่า อังกฤษ มีผู้เล่นประเภทตัวรับถึง 7 คน เซ็นเตอร์แบ็ค 3 ตัว ไม่มีความผิดพลาดเลยนะครับ
คุมพื้นที่พลางสอดประสานงานกันได้อย่างยอดเยี่ยม เฉพาะอย่างยิ่ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่โชว์ฟอร์มโดดเด่นเป็นสง่า ดักสกัดบอลเคลียร์ลูกอันตราย แถมยังพาบอลไปข้างหน้า และขึ้นไปเล่นลูกกลางอากาศได้อีก
เท่านั้นไม่พอ นายทวารอย่าง จอร์แดน พิ๊คฟอร์ด ก็สำแดงลีลาการเซฟช่วยให้ทีมรอดพ้นจากการโดนกะซวก ตอนนี้ อังกฤษ เป็นเพียงทีมเดียวในศึก ยูโร 2020 ที่ยังไม่เสียประตู !!!
2. ปลอดภัยไว้ก่อน
แต่กุนซือสิงโตคำรามไม่แคร์ และหนักแน่นในกลยุทธ์ของตัวเองต่อไป บางจังหวะควรเปิดเข้าไปโจมตีพื้นที่สุดท้ายก็ไม่ทำ เหตุเพราะกลัวเสียบอลแล้วโดนโต้กลับ มิหนำคือ 3 กองหน้าต่างคนต่างเล่น อาศัยความสามารถเฉพาะตัว โดยไม่ค่อยประสานงานกันสักเท่าไหร่ แต่เป้าหมายหลักของ อังกฤษ คือไม่เสียประตูเอาไว้ก่อน
3. การลงมาของ แจ็ค กรีลิช
หลังจากเขาลงมาแล้ว เกมรุกของ อังกฤษ มีมิติมากขึ้น แบ็คซ้ายอย่าง ลุค ชอว์ เริ่มเติมขึ้นมาครอสส์บอลได้ ก่อนผู้เล่นทั้ง 2 คนนี้จะผลัดกันแอสซิสต์ แถมมีส่วนกับทั้ง 2 ประตูของทีมชาติอังกฤษจนนำมาซึ่งประโยคที่ว่า…
“ฟุตบอลเป็นเกมที่เล่นง่ายๆ แค่ต่อบอลไปต่อบอลมาเป็นเวลา 60 นาที แล้วค่อยส่ง แจ็ค กรีลิช ลงมา สุดท้าย อังกฤษ จะเป็นผู้ชนะ”